การวางแผนพาสุนัขตัวโปรดเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นก็จริง แต่ก็ต้องอาศัยการเตรียมตัวอย่างละเอียดและรอบคอบ ไม่เหมือนกับการจองตั๋วเครื่องบินให้ตัวเอง เพราะการเตรียมตัวให้สุนัขเดินทางนั้นมีหลายขั้นตอนที่คุณต้องจัดการทุกอย่างล่วงหน้าให้เรียบร้อย เนื่องจากแทบทุกประเทศมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการนำเข้าสัตว์เลี้ยง หากไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลร้ายแรง เช่น ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หรือต้องถูกกักกันอย่างกะทันหันได้
แต่ข่าวดีก็คือ หากมีการเตรียมตัวมาอย่างดีและได้รับความช่วยเหลือจากมืออาชีพ กระบวนการทั้งหมดก็จะง่ายขึ้นและเป็นไปอย่างราบรื่น คุณควรให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลักคือ เอกสารที่จำเป็น สุขภาพของน้อง และ ความสบายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปพักผ่อนสั้น ๆ หรือการย้ายถิ่นฐานถาวร การมีแผนการที่ดีจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเจ้าตูบได้อย่างมากครับ เรามาดูกันว่าคุณต้องรู้อะไรและทำอะไรบ้างก่อนจะออกเดินทางผจญภัยครั้งใหญ่กับเพื่อนซี้สี่ขาของคุณ
1. จัดการเรื่องเอกสารให้เรียบร้อยแต่เนิ่น ๆ
หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของการเตรียมสุนัขเดินทางไปต่างประเทศ คือ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารของน้องสมบูรณ์ครบถ้วน เพราะแต่ละประเทศมีข้อกำหนดการนำเข้าที่แตกต่างกัน และต้องใช้เวลาเตรียมการล่วงหน้า โดยปกติแล้ว สุนัขของคุณจะต้องมีหนังสือเดินทางสัตว์เลี้ยง หรือเอกสารการเดินทางที่ใช้แทนกันได้ ซึ่งจะบันทึกประวัติการฉีดวัคซีน การตรวจสุขภาพ การฝังไมโครชิป และข้อมูลติดต่อของคุณในฐานะเจ้าของ นอกจากนี้ในบางประเทศที่มีกฎหมายกักกันที่เข้มงวดก็อาจต้องมีใบอนุญาตนำเข้าเพิ่มเติมด้วย หากไม่มีเอกสารเหล่านี้อย่างถูกต้องครบถ้วน ก็มีความเสี่ยงสูงที่สุนัขของคุณอาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หรือแย่กว่านั้นคือต้องถูกกักกันเป็นเวลานานจนกว่าเอกสารจะเรียบร้อย
อีกเรื่องที่ต้องเช็กคือ ข้อจำกัดเรื่องสายพันธุ์ รวมถึงกฎระเบียบเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น บางประเทศอาจมีกำหนดเวลาชัดเจนว่าต้องฉีดวัคซีนตัวไหนเมื่อไหร่ ดังนั้นชะล่าใจ! ควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วน เนื่องจากกฎระเบียบต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการขนย้ายสัตว์เลี้ยงจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้กังวล
2. พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์และวางแผนเรื่องสุขภาพ
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์ ซึ่งนี่ไม่ใช่เพียงแค่การไปตรวจสุขภาพทั่วไปเท่านั้น แต่สัตวแพทย์มีบทบาทสำคัญในการยืนยันว่าสุนัขของคุณมีสุขภาพดีพอที่จะเดินทาง และเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของประเทศปลายทางได้หรือไม่ สุนัขของคุณอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม การตรวจร่างกายอย่างละเอียด หรือตรวจเลือด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน จำไว้เสมอว่าวัคซีนบางชนิดต้องฉีดหลายครั้งและเว้นระยะห่างกันหลายสัปดาห์ คุณจึงต้องเผื่อเวลาให้พอสำหรับการฉีดให้ครบ
หากสุนัขของคุณกินยาประจำอยู่ ก็ควรเตรียมยาให้เพียงพอ อย่าคิดว่าจะสามารถซื้อยาได้ง่าย ๆ ในต่างประเทศ คุณอาจจะปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับยาหรือวิธีช่วยให้น้องหมาไม่วิตกกังวลระหว่างเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเดินทางในห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่องบินแล้วด้วย นอกจากนั้นยังควรตรวจสอบข้อกำหนดเรื่องการฝังไมโครชิปด้วย เพราะประเทศส่วนใหญ่กำหนดให้ต้องมี และสัตวแพทย์จะช่วยตรวจสอบว่าชิปถูกลงทะเบียนและทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะส่งผลดีต่อสุขภาพของสุนัขตลอดการเดินทาง
3. ฝึกให้น้องหมาชินกับกรงเดินทาง
กรงเดินทาง หรือกระเป๋าสำหรับเดินทาง ไม่ได้เป็นแค่เพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง แต่จะเป็นเหมือน “บ้าน” ชั่วคราวของน้องหมาตลอดการเดินทาง ดังนั้นการฝึกให้คุ้นเคยกับกรงล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเริ่มตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป โดยให้สุนัขใช้เวลาอยู่ในกรงโดยเปิดประตูไว้ก่อน เมื่อน้องสงบก็ให้รางวัล อาจเพิ่มของเล่นชิ้นโปรด หรือผ้าห่มที่มีกลิ่นคุ้นเคยเข้าไปในกรง และปล่อยให้พวกเขาค่อย ๆ ปรับตัว เมื่อเวลาผ่านไปน้องหมาจะมองว่ากรงเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในวันเดินทางได้อย่างมาก
การเลือกกรงให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยหลายสายการบินจะมีมาตรฐานข้อกำหนดเรื่องขนาดและการระบายอากาศที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง หากสุนัขต้องเดินทางในส่วนของห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่องบิน กรงจะต้องมีขนาดใหญ่พอที่สุนัขจะสามาระยืน หันตัว และนอนได้อย่างสบาย ๆ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบข้อกำหนดกับสายการบินให้ดี หรืออาจปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งออกสัตว์เลี้ยง เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
4. เตรียมชุดอุปกรณ์เดินทางที่ใช้เป็นประจำเพื่อความสบาย
เมื่อถึงวันเดินทาง คุณควรเตรียมชุดอุปกรณ์ทุกสิ่งที่สุนัขต้องใช้ตลอดการเดินทางใหเพร้อม คล้าย ๆ กับการจัดกระเป๋าให้เด็ก ๆ นั่นแหละครับ คุณต้องมีสิ่งของที่ช่วยให้เขารู้สึกสบายและคุ้นเคย ควรมีอาหารและน้ำที่น้องกินเป็นประจำ ของเล่นชิ้นโปรด และยาต่าง ๆ ที่ต้องใช้ พกผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเปียกเผื่อในกรณีฉุกเฉิน และอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าสุนัขของคุณสวมปลอกคอที่แน่นหนา พร้อมป้ายชื่อที่มีข้อมูลติดต่อของคุณ
การรักษากิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ดังนั้นควรให้อาหารสุนัขตามเวลาปกติก่อนการเดินทาง และให้มีเวลาเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย คุณพยายามทำตัวให้สงบและผ่อนคลายเข้าไว้ เพราะสุนัขจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของคุณ หลีกเลี่ยงการให้อาหารมากเกินไป หรือให้ขนมที่ไม่เคยกินมาก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นปั่นในขณะเดินทาง ซึ่งการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมและความอดทนเพียงเล็กน้อย สุนัขของคุณก็จะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างสบายใจและมั่นใจแล้วล่ะครับ
เราพร้อมช่วยเหลือคุณ!
การวางแผนเดินทางไปต่างประเทศกับสุนัขจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ด้วยการเตรียมตัวล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ และใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ คุณก็จะสามารถผ่านขั้นตอนทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่เรื่องเอกสาร การตรวจสุขภาพ การฝึกให้น้องหมาชินกับกรง ไปจนถึงการจัดเตรียมของใช้ที่จำเป็น ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างดี เพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ให้ผู้เชี่ยวชาญจาก Petrelocation Thailand ช่วยจัดการทุกขั้นตอนให้คุณ! ติดต่อเราเพื่อขอรับคำแนะนำและบริการที่เหมาะกับความต้องการของคุณวันนี้ เพื่อให้ทริปการเดินทางของคุณและเพื่อนสี่ขาเป็นเรื่องง่ายขึ้น